fbpx

back

ความผิดพลาดของ Warren Buffett

“เรื่องพวกนี้คือความผิดพลาดของผม … และพนันได้เลยว่าผมจะต้องทำพลาดอีกเยอะ! ในอนาคตข้างหน้า” #Warren Buffett กล่าวกับผู้ถือหุ้น Berkshire ผ่านจดหมายในปี 2007

เพราะชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ…

มนุษย์เราเป็นเผ่าพันธ์ุที่พัฒนาตัวเองมาตลอดหลายหมื่นปีผ่านการเรียนรู้จากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว “หนึ่งในนั้นคือการเรียนรู้จากความผิดพลาด” ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้กระทั่งชายที่ถือว่าเป็นปรมาจารย์ด้านการลงทุนอย่าง Warren Buffett และนี่เป็นตัวอย่างความผิดพลาดของชายคนนี้ ที่ผมคิดว่าควรค่าแก่การเรียนรู้เป็นอย่างยิ่งครับ

เสียเงิน 200 ล้านเหรียญ ไปกับ Dexter Shoes…

ย้อนไปปี 1993 ปู่บัฟฯ ตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัท Dexter Shoes โดยใช้วิธีการ “แลกหุ้น” กัน ซึ่งก็คือการให้ Daxter ถือหุ้นของ Berkshire ในมูลค่าพอ ๆ กันกับที่ปู่บัฟฯ ต้องการเข้าไปถือหุ้นในบริษัท Daxter โดยตอนนั้นมูลค่าหุ้นที่แลกกันเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 433 ล้านเหรียญ โดยเขาให้เหตุผลของการตกลงในครั้งนี้ว่า “เขาคิดว่าบริษัทนี้มีศักยภาพในการแข่งขัน และมีความได้เปรียบคู่แข่ง”

แต่หลังจากนั้นไม่นาน (ปี 2001) ความได้เปรียบที่ว่าก็หายไป เพราะด้วยการที่รูปแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ Dexter ได้รับความนิยมน้อยลง รวมถึงราคาสินค้าก็เริ่มไม่จูงใจ นั่นเป็นเหตุผลให้มูลค่าหุ้นที่ปู่บัฟฯ  ลงทุนไปนั้นลดลงเหลือ 220 ล้านเหรียญ แม้ว่านั่นไม่ใช่เงินที่มากมายอะไรเมื่อเทียบกับเงินลงทุนทั้งหมดของ Berkshire แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา หุ้นของ Berkshire นั้นปรับตัวขึ้นไปถึง 8 เท่า และเมื่อคิดมูลค่าหุ้นที่เอาไปแลกมานั้น จะกลายเป็นว่า “Deal นี้ Buffett  เสียเงิน (และโอกาสจากการที่หุ้น Berkshire ขึ้นไป 8 เด้ง) ไปร่วม ๆ 3,500 ล้านเหรียญ” และนั่นทำให้เขาถึงกับต้องเอ่ยออกมาว่า “นี่คือการลงทุนที่แย่ที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมา”

เราได้อะไรจากเรื่องนี้ ?

เบื้องหลังของความผิดพลาดนี้อยู่ที่การวิเคราะห์ “ศักยภาพในการแข่งขัน และความได้เปรียบของบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่ง” เพราะจริงอยู่ว่าในวันที่เราวิเคราะห์ บริษัทที่ว่าอาจมีทุกอย่างอยู่ครบถ้วน แต่เรื่องของธุรกิจมันเปลี่ยนแปลงเสมอ และความได้เปรียบที่ว่า “หากไม่ยั่งยืน” การลงทุนนั้นอาจไม่เป็นไปอย่างที่เราหวังเลยครับ ฉะนั้นหากคุณกำลังเลือกบริษัทมาลงทุนอยู่ อย่าลืมตรวจเช็คดูว่าบริษัทที่คุณสนใจนั้นเขามีความได้เปรียบอะไรไหม และความได้เปรียบนั้นมันยั่งยืนหรือเปล่า?

เสียเงิน  444 ล้านเหรียญ ไปกับ TESCO…

เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ปู่บัฟฯ ตัดสินใจซื้อหุ้น TESCO ไปในปี 2012 ทั้งหมด 400 กว่าล้านหุ้น ซึ่ง Deal นี้คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2,300 ล้านเหรียญเลยครับ แต่หลังจากนั้นไม่นาน (สิ้นปี 2013) กลับมีรายงานพบว่าปู่บัฟฯ ดอดขายหุ้น TESCO ทิ้งไป 100 กว่าล้านหุ้น ซึ่งทำให้เริ่มมีคนสงสัยว่า “เกิดอะไรขึ้น?” เพราะเพิ่งซื้อไปเมื่อไม่นานนี้เอง

เรื่องทุกอย่างมาเฉลยในปี 2014 เพราะนั่นเป็นปีที่หุ้น TESCO ร่วงลงหนัก อันเนื่องมาจากผลประกอบการณ์ที่ออกมาต่ำกว่าที่เคยคุยไว้เยอะ ซึ่งปู่บัฟฯ เองก็ออกมาเผยในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น Berkshire ในปีนั้น ว่าการที่เขาขายไปล็อตแรกนั้นเพราะ “เขาเริ่มรู้สึกกังวลเกี่ยวกับทิศทางการบริหารของ TESCO” แต่การขายรอบแรกนั้นเป็นการขายลดพอร์ตเล็กน้อยเท่านั้น และถึงแม้ว่าจะมาขายทิ้งหมดภายหลัง แต่ก็สายเกินไปแล้ว เพราะนั่นทำให้การลงทุนในรอบนี้เขาเสียเงินไปทั้งหมด 444 ล้านเหรียญ

เราได้อะไรจากเรื่องนี้ ?

“เมื่อคุณรู้ตัวว่ามาผิดทาง อย่าลังเลที่จะหนีออกมา” เพราะลองดูจากตัวอย่างนี้ การขายครั้งแรกของปู่บัฟฯ เป็นการขายเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังมาผิดทาง แต่เขาพลาดที่ไม่ได้ขายหุ้นออกมาทั้งหมด และส่งผลให้ขาดทุกหนักไปลายร้อยล้านเหรียญครับ

เสียเงิน 800 ล้านเหรียญ ไปกับ General Re-insurance…

Deal นี้เกิดขึ้นในปี 1998 ซึ่งปีนั้นปู่บัฟฯ ตัดสินใจลงทุนในหุ้นของบริษัท GenRE หรือ General Re-insurance ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจการรับประกันภัยต่อ โดยใช้วิธีการออกหุ้นเพิ่มทุนของ Berkshire ไปซื้อแทน … แต่ถ้าการลงทุนในบริษัทนี้ประสบผลสำเร็จ ผมคงไม่เอามาใส่ในบทความนี้ครับ เพราะหลังจากนั้นแค่ 3 ปี ปู่บัฟฯ ก็ออกมายอมรับว่า นี่เป็นอีกหนึ่งในการลงทุนที่ย่ำแย่ของเขา และเขาต้องเสียเงินไปถึง 800 ล้านเหรียญ เพราะตัวบริษัท GenRE ที่ว่านั้น ดันไม่ได้ปรับค่าความน่าจะเป็นเกี่ยวกับโอกาสที่จะเกิดการก่อการร้ายขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการคำนวณเบี้ยประกัน และเป็นเหตุผลให้บริษัท ไม่มีเงินทุนมากพอในการจ่ายสินไหมเวลาลูกค้ามาเคลมประกัน

เราได้อะไรจากเรื่องนี้ ?

“วินาทีก่อนที่จะตัดสินใจเคาะขวา … อย่าลืม Re-check ข้อมูลที่เราวิเคราะห์หุ้นตัวนั้นมาอีกครั้ง” เช่น ถ้าคุณซื้อหุ้นโดยใช้ปัจจัยพื้นฐาน ก็ลองมาทวนตัวเลขการคำนวณ ดู PE ดูพื้นฐานบริษัทอีกซักครั้ง หรือถ้าเป็น Technician ก็อย่าลืมเช็คแนวรับแนวต้าน Indicators ต่างๆ อีกซักครั้งก่อนซื้อครับ

พลาดโอกาสหลายพันล้านไปกับหุ้น Amazon…

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ปู่บัฟฯ ได้ไปให้สัมภาษณ์ในรายการทีวี Squawk Box ของช่อง CNBC เกี่ยวกับหุ้นของบริษัทขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังอย่าง Amazon ว่านี่ “ถือเป็นอีกความผิดพลาดอันใหญ่หลวง” ของเขา ที่ไม่ได้เข้าไปลงทุนในหุ้นตัวนี้เมื่อหลายปีก่อน โดยปู่บัฟฯ ยอมรับว่า จริงๆ แล้วเขาชื่นชมบริษัทนี้มาก แต่สุดท้ายแล้วเขาเองก็ยังไม่เข้าใจรูปแบบการทำเงินของธุรกิจนี้ รวมไปถึงการที่ราคาหุ้นมันปรับขึ้นไปหลายเท่าของกำไรบริษัทมากๆ (ปัจจุบัน Amazon มี PE Ratio ที่ 245 เท่า) แต่ถึงอย่างไร ราคาหุ้นก็ยังทะยานขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน

เราได้อะไรจากเรื่องนี้ ?

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วครับ ว่าปู่บัฟฯ หลีกเลี่ยงการลงทุนให้หุ้นที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีมาตลอด ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ “แต่เพราะเขาไม่เข้าใจ” ในธุรกิจแบบนี้ และนี่ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนมือใหม่ควรจะยึดเป็นแบบอย่างครับ เพราะการลงทุนในสิ่งที่เราไม่เข้าใจนั่นถือเป็นเรื่องที่เสี่ยงเอามาก ๆ เพราะคุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าการตัดสินใจนั้นถูกต้องหรือเปล่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์นึงในอนาคต จะส่งผลอะไรต่อเงินของเราบ้าง และนั่นทำให้มันไม่ต่างอะไรจากการโยนเหรียญเลย

คิดผิดที่ซื้อบริษัท Berkshire Hathaway…

อันนี้พีคสุด … หนึ่งในความผิดพลาดด้านการลงทุนของผม คือการลงทุนในบริษัท Berkshire Hathaway” เรื่องนี้ต้องย้อนไปสมัยหนุ่ม ๆ ของปู่บัฟฯ เพราะการลงทุนหลัก ๆ ครั้งแรกนั่นก็คือการเข้าไปลงทุนในบริษัทสิ่งทออย่าง Berkshire Hathaway  โดยในตอนที่ตัดสินใจซื้อบริษัทนั้นเป็นเพราะแกคิดว่า บริษัทนี้น่าจะพอทำกำไรได้บ้างในช่วงที่บริษัทสิ่งทออื่น ๆ ปิดตัวลง … ซึ่งนั่นกลายเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์จนทำให้สุดท้ายต้องเปลี่ยนบริษัท Berkshire Hathaway ให้กลายมาเป็น Holding Company ไล่ช็อปหุ้นของบริษัทต่าง ๆ จนมีมูลค่าบริษัทถึง 4.5 แสนล้านเหรียญ ในปัจจุบัน แต่ยังคงใช้ชื่อเดิมของบริษัท เพื่อที่จะได้คอยย้ำเตือนตัวเองให้เห็นถึงบทเรียนด้านการลงทุนครั้งสำคัญครั้งนี้

เราได้อะไรจากเรื่องนี้ ?

การเข้าไปลงทุนซื้อหุ้นซักบริษัทนึง แล้วผิดพลาดขึ้นมา แน่นอนว่ามันทำให้เราทุกคนเกิดอาการ “หัวร้อน” ได้ง่าย ๆ แต่อย่างที่ผมได้บอกไปตอนต้นครับ ว่าไม่มีใครที่ไม่เคยผิดพลาด ดูอย่าง Warren Buffett ทั้งชีวิตแกไม่ได้มีแต่เรื่องที่ประสบความสำเร็จ แต่ต่างก็เคยทำเรื่องผิดพลาดอยู่เสมอ แต่สิ่งที่จะทำให้คุณสามารถเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง นั่นก็คือการเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นครับ

ผมว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการลงทุนนะ คุณสามารถนำเรื่องราวเหล่านี้ไปปรับใช้ได้กับทุก ๆ ความผิดพลาดในชีวิต “ยอมรับมัน … เรียนรู้จากมัน … ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลครับ”

Related Activities

เราอาจกำลังเข้าสู่วิกฤตเศรฐกิจครั้งใหญ่

เดี๋ยวนี้นั่งอ่านข่าวเศรษฐกิจ เจอคำนี้บ่อยมาก “Global Synchronized Slowdown” ซึ่งพูดถึงภาวะที่เศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศแย่ลงพร้อมๆ กัน

อ่านต่อ

ยื่นภาษีเสร็จแล้ว จะยกเลิกประกันชีวิตใช่ไหม?

“เรื่องที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ อาจทำให้ผู้เสียภาษีบางรายต้องขนลุกขนพองสยองเกล้า …”

อ่านต่อ

ภาษี e-Payment

สืบเนื่องจากที่สรรพากร ได้ออก พรบ. เพื่อจะจัดเก็บภาษีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ หรือภาษี e-Payment

อ่านต่อ